เมื่ออายุของเราเพิ่มมากขึ้น ระบบเผาผลาญในร่างกายก็จะเริ่มทำงานช้าลง ไม่ได้ทำงานได้ดีเหมือนตอนที่เรายังเป็นวัยรุ่นที่จะกินอะไรหรือทำกิจกรรมอะไรก็ไม่ส่งผลให้เราอ้วนขึ้นมาได้โดยง่าย แต่เมื่อมาถึงในวัยที่กินอะไรก็อ้วนขึ้น โดยเฉพาะสัดส่วน ต้นขาใหญ่ขึ้นได้ง่าย ๆ พร้อมไขมันที่พอกพูน ใคร ๆ ก็อยากได้ขาเรียวเล็กเหมือนในอดีตกลับมา ซึ่งไม่ใช่เรื่องยากและง่ายที่จะทำให้กลับมาขาเรียวเล็ก
วิธีลดต้นขา ด้วยการดูดไขมันต้นขา
ออกกำลังกายสำหรับลดต้นขา การออกกำลังกายแบบแอโรบิก (Aerobic Exercise)
การออกกำลังกายชนิดนี้จะช่วยให้หัวใจแข็งแรง เสริมสร้างกล้ามเนื้อสะโพกและกล้ามเนื้อขา และมีสุขภาพที่ดีขึ้น โดยทำได้ด้วยการวิ่งเร็ว วิ่งเหยาะ ๆ หรือเดินชัน หากออกกำลังกายลักษณะดังกล่าวไม่ได้ อาจปั่นจักรยานอยู่กับที่ด้วยเครื่อง ทั้งนี้ ควรออกกำลังกายแบบแอโรบิกให้ได้อย่างน้อยสัปดาห์ละ 3 ครั้ง ครั้งละ 20 นาทีหรือมากกว่านั้น โดยทำกิจกรรมดังกล่าวต่อเนื่องกันอย่างน้อยวันละ 30 นาที หรือประมาณสัปดาห์ละ 150 นาที รวมทั้งหาโอกาสเคลื่อนไหวร่างกายอย่างสม่ำเสมอ เช่น เดินขึ้นบันไดแทนการใช้ลิฟต์ เดินหรือปั่นจักรยานไปในสถานที่ใกล้ ๆ แทนการขับรถ
การดูดไขมันเพื่อลดต้นขา
เทคนิคการดูดไขมันต้นแขนในปัจจุบันมี 5 เทคนิคดังนี้
- วิธีดูดไขมันด้วยเวเซอร์
เวเซอร์เป็นอัลตร้าซาวด์ประเภทหนึ่งที่ใช้ละลายไขมันก่อนที่จะมีการดูดออก ซึ่งช่วยสำหรับการดูดไขมันให้เร็วขึ้น เหมาะสมกับการดูดไขมันที่มีมากมายจะใช้เวลาสั้น
- วิธีในการดูดไขมันด้วย BodyJet
เป็นอีกวิธีที่นิยมกันในช่วงหลัง การดูดไขมันแบบนี้ คือการใช้แรงดันน้ำเข้าไปช่วยสำหรับการดูดไขมันนั่นเอง โดยทั้งไขมันแล้วก็น้ำจะไหลกลับออกมาพร้อมกัน
- วิธีดูดไขมันด้วย endolaser
เป็นอุปกรณ์ดูดไขมันต้นแขนแบบใหม่ที่ใช้ ความยาวคลื่น เนื่องจากความยาวคลื่นแต่ละอัน จะมีเนื้อเยื่อเป้าหมายไม่เหมือนกันโดยมีแนวความคิดว่าเมื่อผนังเซลล์ไขมันเจอความยาวคลื่นเลเซอร์แบบนี้แล้ว จะถูกทำลายไป ทำให้ดูดไขมันออกมาง่ายดาย
- วิธีดูดไขมันและตัดหนังร่วมด้วย
วิธีดูดไขมันแขนแบบนี้ นับได้ว่าเป็นมาตรฐานเพราะว่าได้กำจัดไขมันส่วนเกินไปจนหมดและก็ตัดหนังที่ยืดออกมาได้ในคราวเดียวกัน สามารถทำเสร็จภายใน 2-3 ชั่วโมง
- วิธีดูดไขมันด้วย Bodytite
เป็นทางเลือกที่สำคัญของการดูดไขมัน เนื่องจากว่ามีหลายอย่างที่ตอบสนองปัญหาของบริเวณนี้ได้ ไม่ว่าจะเป็นเครื่องที่ทำให้เกิดการกระชับผิวได้เยอะมากถึง 40% ทั้งยังเป็นเครื่องที่มีเซนเซอร์วัดปรอทตลอดเวลาแบบเรียลไทม์
ราคาค่าบริการหลังดูดไขมันต้นขา
ราคาของการดูดไขมันต้นขาส่วนใหญ่จะเริ่มต้นที่ 44,000 บาท
ข้อปฏิบัติและเตรียมตัวก่อนการดูดไขมัน
1.งดวิตามินและอาหารเสริม7-14 วัน
2.งดแอลกอฮอล์ 7วันก่อนทำ
3.ทานอาหารก่อนทำได้ตามปกติ แต่เช้าวันทำงดชา กาแฟ คาเฟอีน
4.พักผ่อนให้เพียงพอ อย่างน้อย 6-8 ชม.
5.ควรงดบุหรี่ก่อนและหลังทำอย่างน้อย 2-4สัปดาห์ เพราะมีผลต่อการฟื้นตัวของแผลหลังดูดไขมัน
การดูดไขมันต้นขาแผลใหญ่
การดูดไขมันต้นขาแผลจะเล็กมาก ประมาณ 2-3 มิลเท่านั้นเอง ส่วนใครที่กังวลรอยดำ ก็ขยับทาครีมรักษาแผลเป็นด้วย
หลังการดูดไขมันต้นขา
การเลือกกินอาหารช่วยได้
การเปลี่ยนพฤติกรรมการกินเป็นสิ่งแรกที่จะช่วยให้ต้นขาของคุณนั้นกระชับและลดการสะสมของไขมันลดลงได้
- อาหารรสจัดทำให้ไขมันสะสมได้ เนื่องจากการปรุงอาหารให้มีรสจัดนั้นสิ่งที่ขาดไม่ได้เลยคือความเค็มจากน้ำปลาหรือเกลือ ที่จะส่งผลต่อการมีโซเดียมในร่างกายมากขึ้น ทำให้ร่างกายของเรากักเก็บไขมันส่วนเกินมากขึ้น ดังนั้นการเลือกกินอาหารที่ไม่ต้องปรุงรสจัดมาก จึงจะเป็นผลดีต่อร่างกายมากกว่า
- อาหารที่มีโพแทสเซียมสูงช่วยปรับสมดุลร่างกายได้ดี เช่น โยเกิร์ต ผลไม้รสเปรี้ยว กล้วย มันฝรั่ง แคนตาลูป มะเขือเทศ ผักใบเขียวทุกชนิด จะช่วยปรับสมดุลน้ำในร่างกายและไม่มีไขมันด้วย
- หลีกเลี่ยงอาหารที่มีรสหวาน เช่น เค้ก น้ำอัดลม ช็อกโกแลต แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าคุณต้องเลิกกินของพวกนี้เด็ดขาด แต่ควรกินให้น้อยลงและในปริมาณที่เหมาะสมจะเป็นผลดีต่อร่างกายของคุณ
- การดื่มน้ำอย่างเพียงพอในแต่ละวัน จะช่วยให้เซลล์ต่าง ๆ ในร่างกายทำงานได้อย่างเป็นปกติ และยังช่วยให้ร่างกายขับของเสียได้ดีขึ้น
การอดอาหารช่วยลดต้นขาได้จริงหรือ
หลายคนมีความเชื่อว่าการอดอาหารทำให้ผอมลงได้จริง ๆ เป็นความเชื่อที่ผิด การอดอาหารจะทำให้คุณมีความหิวเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากร่างกายต้องการพลังงานและสารอาหารไปใช้ทำงาน ทำให้เมื่อคุณกินมื้อต่อไปจะทำให้คุณกินมากขึ้น ซึ่งนอกจากนี้แล้วยังส่งผลในเรื่องการเผาผลาญของร่างกายที่แย่ลง ยิ่งกินเข้าไปก็ทำให้จะทำให้ร่างกายเผาผลาญได้ไม่หมดทำให้สะสมเป็นไขมันในร่างกายเพิ่มมากขึ้น เมื่อคุณอดอาหารบ่อยๆ จะพบว่าคุณอารมณ์เสียและหงุดหงิดง่าย เนื่องจากการขาดแป้งและน้ำตาล อีกทั้งยังส่งผลต่อความคิดที่ช้าลงเนื่องจากได้รับสารอาหารที่ไม่เพียงพออีกด้วย เมื่อเราอดอาหารแล้วก็ทำให้ส่งผลเสียต่อระบบการทำงานของร่างกายรวมถึงด้านอารมณ์ด้วย