สำหรับผู้ที่ประสบพบเจอกับปัญหาในเรื่องของรูปร่างและรูปทรง ทางออกหนึ่งที่หลายคนสนใจก็คือการ “ดูดไขมัน” ที่นับเป็นศัลยกรรมชนิดหนึ่ง ซึ่งจำเป็นต้องอาศัยหมอผู้ชำนาญสำหรับการปฏิบัติ แต่เวลาเดียวกันก็ยังมีหลาย ๆ คนที่ขาดความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการดูดไขมันอยู่มาก วันนี้ทางเราก็เลยถือโอกาสนำข้อมูลวิชาความรู้จากหมอผู้ชำนาญมาฝากเพื่อทำความเข้าใจร่วมกัน การดูดไขมันนับเป็นศัลยกรรมชนิดหนึ่ง ที่จำเป็นต้องอาศัยหมอผู้ที่มีความชำนาญในการผ่าตัด ไม่สามารถที่จะทำเองได้ ยกตัวอย่างเช่นในปัจจุบันที่เห็นว่าบางแห่งจำหน่ายเครื่องดูดไขมันสำหรับทำเองที่บ้านหรือสำหรับร้านค้าที่ให้บริการเกี่ยวกับความงาม จัดว่าเป็นเรื่องที่ไม่น่าเชื่อถือ เพราะว่าการดูดไขมันต้องทำร่วมกันกับการผ่าตัด จะต้องอาศัยวิชาความรู้เฉพาะทางและก็จำเป็นต้องทำโดยหมอเท่านั้น นับว่าเป็นอีกเรื่องหนึ่งที่หลายคนยังคงหลงผิดแล้วก็ควรทำความเข้าใจใหม่ตั้งแต่ตอนนี้ การดูดไขมันหลัก ๆ มีเพียงวิธีเดียวคือวิธีการทำให้ไขมันหละหลวมเพื่อดูดออกมาจากร่างกายได้ง่ายมากยิ่งขึ้น แต่ว่าแนวทางการทำให้ไขมันหละหลวมมีหลายกระบวนการ เช่น การใช้คลื่นวิทยุ (RF) การใช้อัลตราซาวด์ (คลื่นเสียง) การฉีดสารละลายบางสิ่งที่ทำให้ไขมันกระจายตัวและก็ดูดง่ายมากยิ่งขึ้น และควรเป็นสารที่ไม่มีอันตรายปลอดภัย การดูดไขมันไม่อาจจะดูดได้ทุกแห่ง เพราะว่าบางตำแหน่งมีความเสี่ยงสูง ซึ่งไม่เหมาะสมกับการดูดไขมัน โดยตำแหน่งที่คนนิยมดูดไขมัน อาทิเช่น ท้อง เอว ต้นขา ต้นแขน แล้วก็บั้นท้าย ส่วนตำแหน่งที่ไม่เหมาะสมกับการดูดไขมันเป็นบริเวณใบหน้า เพราะว่ามีเส้นประสาทจำนวนมาก การเตรียมตัวก่อนที่จะมีการดูดไขมันคือจำเป็นต้องรู้ก่อนว่าจะดูดตำแหน่งไหน แล้วก็ต้องทำความเข้าใจว่าบริเวณนั้นสมควรไหมยังไง
เช่นการดูดไขมันน่องเป็นบริเวณที่หลายท่านต้องการดูดไขมันออก แต่ว่าโดยมากขนาดของน่องที่ใหญ่ มักไม่ได้เป็นเพราะไขมันแต่ว่าเป็นเพราะกล้ามเนื้อมากกว่า บางทีอาจจำเป็นต้องเข้าไปปรึกษาหมอเพื่อทำการวิเคราะห์รายละเอียดอีกทีว่ามีไขมันสะสมอยู่มากน้อยแค่ไหน ยิ่งไปกว่านี้ยังจำเป็นต้องทำการศึกษาเรียนรู้หาข้อมูลเกี่ยวกับสถานที่ให้บริการที่ต้องมีมาตรฐาน มีห้องผ่าตัดมาตรฐานสูง มีห้องพักฟื้นที่เหมาะสม และศึกษาข้อมูลของหมอที่จะทำการดูดไขมันให้เพื่อความปลอดภัยของท่านเอง
ความยากในการดูดไขมันน่อง
- น่องเป็นบริเวณที่มีไขมันไม่มาก แต่ว่าหนาบางแตกต่างกัน ก็เลยนำมาซึ่งรูปทรงที่ไม่สวย ด้วยเหตุผลดังกล่าวกระบวนการทำต้องระวัง ประสบการณ์หมอเป็นสิ่งสำคัญมาก
- เครื่องดูดไขมันที่นิยมใช้ ไม่ว่า VASER, LASER มีโอกาสทำลายเนื้อเยื่อได้ทุกแบบ ขึ้นอยู่กับการควบคุมพลังงานความร้อน ขนาดคุมดีแบบ BodyTite ยังมีโอกาสเกิดรอยคราบที่เกิดจากการไหม้ได้ขึ้นอยู่กับประสบการณ์
- เมื่อเกิดคราบรอยไหม้จากเครื่องมือดูดไขมัน รักษาหายยาก หลายรายเป็นรอยดำถาวร เป็นก้อนแข็งหลังดูดไขมันจนเด่นชัด
คนที่ไม่ควรดูดไขมันที่น่อง
การดูดไขมันที่น่องไม่ใช่ว่ายากดูดก็ได้ดูด เพราะบางที่น่องของเราอาจจะไม่มีไขมันสะสมอยู่ในนั้นก็เป็นได้ ทางที่ดีก่อนการทำควรปรึกษาหมดผู้เชี่ยวชาญทางด้านการดูดไขมันจะดีที่สุด เพราะหมอสามารถบอกเราได้ว่าตรงไหนที่เราสามารถดูดไขมันได้ และตรงไหนที่เราไม่สามารถดูดไขมันได้ และใครที่ไม่ควรดูดไขมันน่อง มีดังนี้
- คนที่ไม่ควรดูดไขมันน่องก็คือคนที่มีน่องใหญ่เพราะกล้ามเนื้อไม่ใช่ไขมัน ไม่สามารถดูดไขมันออกได้
- มีข้อห้ามอื่น ๆ ที่น่อง เช่นมีเส้นเลือดขอดที่น่อง เพราะการดูดไขมันที่น่องนั้นหากมีเส้นเลือดขอดที่น่องก็ไม่สามารถดูดไขมันออกได้ เพราะจะทำให้เส้นเลือดที่ขอดแตกและเป็นอันตรายได้
การดูแลตัวเองหลังดูดไขมัน
1.ทำแผลวันละครั้ง ตามคำแนะนำ
2.ควรกลับบ้านพักผ่อน และควรเริ่มเดินในทันทีเพื่อป้องกันการเกิดก้อนเลือดตันที่น่อง และเพื่อช่วยระบายของเสียออกมาจากแผล
3.งดการอาบน้ำ สามารถอาบน้ำได้ในวันถัดไป หลังจากที่ทำการติดพาสเตอร์กันน้ำ ใช้พาสเตอร์กันน้ำ ติดแผลก่อนอาบน้ำทุกครั้ง บางคนอาจมีอาการแพ้ อาจใส่เฉพาะว่าก่อนอาบน้ำก็พอ ไม่ต้องใส่ตลอดเวลา
4.อย่าให้แผลโดนแดด เนื่องจากอาจจะทำให้แผลมีสีดำได้
5.ใส่ชุดกระชับตลอด 24 ชั่วโมง ใน 3 วันแรก และจากนั้นใส่เพียงวันละ 12 ชั่วโมง เพื่อเลือดไหลเวียน เป็นเวลา 1 เดือน
6.ใส่ชุดกระชับที่ออกแบบมาสำหรับในการดูดไขมัน น่องเสมอ เพื่อผิวกระชับได้เร็วขึ้น
7.ถ้าเกิดมีแผลด้านใน รอบ ๆ น่องพยายามไม่ให้แผลโดนปัสสาวะ เพี่อป้องกันการติดเชื้อ
8.งดกิจกรรมหนัก เพื่อป้องกันแผลเปิดสักระยะ สามารถบริหารร่างกายเบา ๆ ได้ส่วนบริหารร่างกายหนัก เริ่มทำได้หลังการดูดไขมัน 2 อาทิตย์
9.งดทานของเค็ม และแอลกอฮอล์ รวมถึงของดองเพื่อไม่ให้แผลหายช้า
10.ปฏิบัติตามคำแนะนำของหมอ และทางสถานพยาบาลอย่างเคร่งครัด
สำหรับการดูดไขมันในบริเวณต่าง ๆ ก็ไม่ได้การันตีว่าไขมันจะหมดไปอย่างถาวร เพียงแค่ช่วยทำให้ดีขึ้นแค่นั้น สมมุติมีไขมันอยู่ 100% หลังการดูดออกอย่างมากจะออกไป 60% ของไขมันทั้งหมด หลังจากนั้นไขมันก็อาจจะกลับมาใหม่ เวลาทานอะไรเข้าไปแต่ว่าอาจจะกลับมาไม่ถึง 100% โดยบางทีอาจจะกลับมาเพียงแค่ 80% เท่านั้น แต่หากไม่มีการควบคุมอาหารที่ดีพอ ไขมันก็อาจจะกลับมาเหมือนเดิมได้เช่นเดียวกัน
