ดูดไขมันผ่อนจ่าย ด้วยบัตรเครดิท

ปัจจุบันนี้อยากสวย อยากหล่อ ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป ซึ่งใครอยากสวยแบบเห็นได้ชัดก็คงหนีไม่พ้นการทำศัลยกรรม ซึ่งกลายเป็นเรื่องปกติของคนในยุคนี้ไปเสียแล้ว แต่การที่จะทำให้หุ่นดูสวยและมีรูปร่างที่ดีด้วยการดูดไขมันนั้นคงจะต้องควักเงินในกระเป๋าไม่น้อยเลยทีเดียว

ดูดไขมันผ่อนจ่าย

ซึ่งยุคสมัยนี้การจะที่เราจะควักเงินสดออกจากกระเป๋าคงต้องคิดแล้วคิดอีก สถาบันความงามรับรู้ถึงเหตุผลนี้จึงให้สาว ๆ ได้มาทำการดูดไขมันผ่อนจ่ายกับทางสถาบัน เพื่อเป็นการดึงลูกค้าเข้าสถานที่ของตน

ในยุคนี้เป็นยุคที่คลินิกเสริมความงามต่างแข่งขันกันจัดโปรโมชั่นเพื่อถึงลูกค้าเข้าคลินิกของตนด้วยการให้ลูกค้า “สวยก่อน ผ่อนทีหลัง” ซึ่งปัจจุบันนี้มีคลินิกที่เข้าร่วมโปรโมชั่นกับบัตรเครดิต ด้วยการให้ผ่อน 0% นาน 10 เดือน หากคลินิกไหนไม่เข้าร่วมเท่ากับเสียผลประโยชน์ การจัดโปรโมชั่นให้สาว ๆ ได้เข้ามาดูดไขมันผ่อนจ่าย จึงทำให้มีผู้เข้ามาใช้บริการผ่อนจ่ายกันมากมาย เนื่องจากว่าใคร ๆ ก็อยากจะสวยกันทั้งนั้น

ขั้นตอนการผ่อนสวยด้วยบัตรเครดิต

  • ออกบัตรเครดิตที่ครอบคลุมในเรื่องของการทำศัลยกรรม ซึ่งปัจจุบันนี้น่าจะครอบคลุมเกือบทั้งหมด โดยการจัดโปรโมชั่น ผ่อน 0% นาน 10 เดือน หรือให้อัตราดอกเบี้ยค่อนข้างต่ำ เพื่อดึงลูกค้าเข้าคลินิก เมื่อสาว ๆ เห็นต่างก็อยากเข้ามาใช้บริการ เพราะมองว่าเดือนหนึ่งเสียไม่กี่บาท
  • ก่อนที่ท่านจะใช้บัตรเครดิต ท่านจะต้องทำการตรวจสอบให้แน่ใจว่ามีวงเงินพร้อมจ่าย ครอบคลุมทุกขั้นตอน ซึ่งจะต้องดูเงื่อนไขต่าง ๆ และตรวจสอบโปรโมชั่น อัตราดอกเบี้ยต้องไม่สูงจนเกินไป
  • การใช้บัตรเครดิตสำหรับการดูดไขมันนั้นจะมาพร้อมกับความเสี่ยง ซึ่งต้องแน่ใจก่อนตัดสินใจใช้บัตร เพราะเมื่อทำไปแล้วไม่ถูกใจหรือเกิดข้อผิดพลาด คุณก็ยังจะต้องผ่อนหนี้ต่อไป ถึงแม้ว่าความผิดพลาดนี้ทางคลินิกจะรับผิดชอบก็ตาม

เมื่อสาว ๆ ต้องการดูดไขมันแบบผ่อนจ่าย เราจะพามาดูประวัติของการดูดไขมันกันก่อนดีกว่าว่ามีประวัติความเป็นมาอย่างไร

ประวัติการดูดไขมัน

การดูดได้ถือกำเนิดเมื่อปี ค.ศ. 1960 ซึ่งในยุคนั้นการดูดไขมันจะใช้การขูดไขมันออก (Curettage) ทำให้เกิดผลข้างเคียงมาก และมีเลือดออกมาก ต่อมาได้พัฒนามาเป็นการใช้เครื่องดูดสุญญากาศช่วยในการดูดผ่าน แท่งดูดหัวมน (Blunt cannulas with suction assisted) การดูดไขมันด้วยวิธีนี้ ไขมันจะมีลักษณะเป็นก้อนแข็ง จึงทำให้เกิดการบาดเจ็บและพบผลข้างเคียงมาก เช่น ปัญหาเลือดออกมาก

และในปี 1990 ได้มีการนำคลื่น ultrasound มาสลายไขมันให้กลายเป็นของเหลวก่อนที่จะดูด โดยที่วิธีนี้ได้มีการพัฒนาต่อเนื่องมาเรื่อย ๆ จนกลายเป็นการดูดไขมันในปัจจุบัน ซึ่งทำได้ง่ายและปลอดภัย ผลลัพธ์ที่ได้ก็เป็นที่น่าพึงพอใจสำหรับผู้ที่เข้ารับบริการ

การดูดไขมันในปัจจุบันนี้ได้มีการนำไขมันที่ดูดได้มาเป็นสารเติมเต็มในตำแหน่งต่าง ๆ เช่นใบหน้า เพื่อทำให้ผิวหน้าดูอ่อนเยาว์อีกด้วย และหากสาว ๆ ต้องการที่จะเข้ามาดูดไขมันกับสถานบริการท่านควรจะทราบถึงเทคนิคและขั้นตอนในการใช้บริการ ดังนี้

เทคนิค และขั้นตอนการเข้าใช้บริการดูดไขมัน

  • ทางสถานบริการจะทำการซักประวัติ ตรวจร่างกาย และประเมินบริเวณที่ต้องการทำการดูดไขมัน โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อวางแผนการรักษา รวมถึงการประเมินว่าบริเวณที่ต้องการรับการดูดไขมันนั้นเหมาะสมต่อการรักษาด้วยวิธีการดูดไขมันหรือไม่
  • ผู้เข้ารับการดูดไขมันจะต้องทำความเข้าใจ และเตรียมความพร้อมสำหรับการผ่าตัด เช่นการตรวจเลือด การหยุดยาบางชนิด เช่นยาแอสไพริน อาหารเสริม และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
  • ในวันที่จะเข้ารับการดูดไขมัน แพทย์จะทำการตรวจประเมินร่างกายอีกครั้งว่ามีความพร้อมหรือไม่
  • การระงับความเจ็บปวด แพทย์จะใช้วิธีการฉีดยาชาเฉพาะที่ หรือ local anesthesia แต่ในกรณีที่ผู้เข้ารับการดูดไขมันมีความกลัวมากกว่าปกติ แพทย์จะใช้วิธีดมยาสลบ หรือ General anesthesia ซึ่งควรจะทำในสถานพยาบาลเท่านั้น เนื่องจากมีความเสี่ยง

ขั้นตอนการผ่าตัดดูดไขมัน

  • แพทย์จะทำการฉีดยาชา เพื่อเปิดแผล ซึ่งจะมีขนาดประมาณ 0.5 – 1 เซนติเมตร
  • บริเวณที่ต้องการดูดไขมัน แพทย์จะใช้เครื่องมือที่เป็นแท่งยาวขนาดเล็ก (Blunt cannula) ใส่น้ำเกลือที่ผลมด้วยยาชาและยาห้ามเลือด (Tumescent technique) โดยจะใส่เข้าไปให้ทั่วชั้นไขมัน หลังการฉีดผู้รับการดูดไขมันจะไม่มีความรู้สึกเจ็บปวด และจะทำให้ลดปริมาณเลือดที่ไหลระหว่างการทำอีกด้วย
  • ขั้นตอนต่อไปคือ จะเป็นขั้นตอนของการสลายไขมันด้วยคลื่น ultrasound ซึ่งจะส่งพลังงานสั่นสะเทือนผนังของเซลล์ไขมันให้แตกออกและสลายเป็นน้ำ ซึ่งจะไม่ทำอันตรายต่อเนื้อเยื่ออื่น ๆ เช่น เส้นเลือด หรือเส้นประสาท
  • เมื่อไขมันแตกสลายเป็นน้ำ แพทย์จะทำการดูดไขมันออกมา โดยใช้เครื่องดูดสูญกาศ
  • เมื่อดูดไขมันในชั้นที่ลึกออกหมดแล้ว แพทย์จะใช้เทคนิคของ High-definition เพื่อปรับแต่งรูปร่างให้สวยงามและได้รูปมากที่สุด
  • เมื่อเสร็จขั้นตอนทั้งหมดแล้ว แพทย์จะทำการเย็บแผล โดยที่แผลจะมีขนาดเล็กนิดเดียว และเย็บไม่เกิน 2 เข็ม
  • หลังจากดูดไขมันเสร็จ จะมีน้ำเกลือไหลออกมา แต่จะไม่เกิน 24 – 48 ชั่วโมง เพื่อเป็นการระบายน้ำเกลือและยาชาที่ค้างอยู่ในบริเวณที่ทำการดูดไขมัน
  • แพทย์จะทำความสะอาดบริเวณที่ทำการดูดไขมัน และพันผ้าเพื่อกระชับผิวหนังบริเวณที่ดูดไขมัน เพื่อให้ยุบบวมและเข้ารูปที่สวยงาม

บทสรุป

ดูดไขมันผ่อนจ่าย เป็นการอำนวยความสะดวกให้กับสาว ๆ ที่ไม่ต้องการชำระบริการแบบเต็มจำนวนด้วยเงินสด ซึ่งปัจจุบันนี้เงินสดหาได้ยากมาก เมื่อคลินิกได้ให้บริการในลักษณะนี้จึงเป็นการดึงให้ลูกค้าสาว ๆ เข้าคลินิกเพื่อทำการดูดไขมันได้แบบไม่รู้สึกเสียดายเงิน