ดูดไขมัน 360 องศา คืออะไร

ดูดไขมัน 360 องศา ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในผู้ที่มีไขมันส่วนเกินสะสมอยู่ในร่างกายในปริมาณที่มาก สามารถดูดไขมันออกได้มากตามที่ต้องการได้ เพื่อให้มีรูปร่างที่ดี สวยงาม กระชับสัดส่วนมากยิ่งขึ้น ทำให้สาว ๆ มีความมั่นใจมากยิ่งขึ้น ถือเป็นสิ่งที่ตอบโจทย์หรือเป็นตัวช่วยที่ทำให้สาว ๆ มีรูปร่างที่ดีมากยิ่งขึ้น สามารถเลือกได้ตามต้องการไม่ว่าจะเป็น ดูดไขมันหน้าท้อง ต้นแขน ต้นขา เพื่อให้เกิดผลลัพธ์ที่เป็นที่พึงพอใจสาว ๆ มากยิ่งขึ้น

ดูดไขมัน 360 องศา

ทำไมต้องดูดไขมัน

หลายคนเกิดคำถามขึ้นในใจว่า ทำไม่ต้องดูดไขมัน ไม่มีทางเลือกอื่นที่สามารถลดไขมันส่วนเกินที่สะสมในร่างกายด้วยวิธีอื่น ๆ ได้อีกหรือ การดูดไขมันเป็นอีกวิธีที่จะสามารถลดไขมันที่สะสมตามบริเวณต่าง ๆ ของร่างกายได้เป็นอย่างดี เพราะการกำจัดไขมันด้วยวิธีการควบคุมอาหาร หรือการกำลังกาย ยังไม่ได้ผลลัพธ์ที่ดีเท่าที่ควร ซึ่งเป็นเรื่องที่ยากและต้องใช้เวลามากพอสมควร จึงเป็นวิธีที่สาว ๆ เลือกใช้กันเป็นอย่างมาก เพื่อให้มีรูปร่างที่ดี สวยงาม กระชับและทำให้เกิดความมั่นใจมากยิ่งขึ้นอีกด้วย

ดูดไขมัน 360 องศา คืออะไร

ดูดไขมัน 360 องศา คือการดูดไขมันทั่วทั้งบริเวณไม่ว่าจะเป็นหน้าท้อง ต้นแขน ต้นขา ดังนั้นจึงถูกเรียกว่าการดูดไขมัน 360 องศา สามารถดูดไขมันออกมาได้ทั้งหมดในครั้งเดียว โดยแพทย์จะใช้เวลาในการดูดไขมันประมาณ 2 ชั่วโมง โดยไม่รู้สึกเจ็บปวดใด ๆ โดยหลังจากการดูดไขมันเสร็จแล้ว ต้องสวมใส่ชุดรัดที่ทางคลินิกได้จัดเตรียมไว้ให้เป็นเวลา 2 เดือน

บริเวณใดบ้างที่สามารถดูดไขมัน 360 องศาได้

  1. ใบหน้า (แก้มและคาง)

การลดไขมันบนใบหน้าจะสามารถทำได้ในปริมาณที่ไม่มากนัก แต่เห็นผลค่อนข้างเยอะ เพราะนอกจากจะทำให้หน้าเรียวขึ้น กระชับขึ้น จะทำให้กรอบหน้าและมุมคางะชัดขึ้นอีกด้วย

  1. แขน

การมีต้นแขนที่ใหญ่และหนา เป็นปัญหาสำหรับใครหลาย ๆ คน การได้รับการดูดไขมันที่ต้นแขน จะห้ผลลัพธ์เป็นที่น่าพึงพอใจเป็นอย่างมาก และไม่ทำให้หนังต้นแขนหย่อนคล้อยหลังจากการดูดไขมันอีกด้วย ซึ่งเราจะเหลือไขมันไว้รอบแขน 30% โดยประมาณ ซึ่งก็คือการดูดไขมันออกรอบแขนถึง 70% เลยทีเดียว

  1. รักแร้/หลัง

บริเวณรักแร้และหลังจะประกอบไปด้วยเนื้อเยื่อต่าง ๆ รวมไปถึงไขมันสะสมอีกด้วย เมื่อสะสมกันเป็นก้อน จึงทำให้การกำจัดโดยการออกกำลังกายนั้นเป็นเรื่องที่ยากมาก การดูดไขมันลดส่วนเกินบริเวณรักแร้และหลัง ก็สามารถทำได้ เพื่อให้ผิวกระชับและปรับสัดส่วนให้สวยงามมากยิ่งขึ้น

บทความแนะนำ ไขมันใต้รักแร้ จากเว็บไซต์ Rattinan.com

  1. หน้าท้องและบั้นเอว

หน้าท้องจะเป็นส่วนที่มีไขมันสะสมเป็นจำนวนมาก จึงทำให้การลดไขมันบริเวณนี้เป็นเรื่องที่ยากมาก ดังนั้นการดูดไขมันถือเป็นวิธีที่ได้ผลลัพธ์ที่ดีมากที่สุด เพื่อให้ผิวหน้าท้องราบเรียบสม่ำเสมอมากยิ่งขึ้น

  1. ต้นขา

ไขมันส่วนเกินบริเวณต้นขา จะทำให้สาว ๆ มีรูปร่างที่ดูเตี้ย ดูตัน ๆ เพราะเป็นการเน้นส่วนล่างของร่างกาย เป็นการกำจัดไขมันที่ยากมากไม่ว่าจะควบคุมอาหารหรือออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอแล้วก็ตาม ซึ่งไขมันส่วนนี้จะเกาะรวมกันเป็นก้อนแน่น ๆ  การดูดไขมันบริเวณนี้จึงสามารถตอบโจทย์ได้ดีมากที่สุด

  1. น่อง/ข้อเท้า

การมีน่องและข้อเท้าที่เรียวบางกลมกลึงและข้อเท้าเล็ก เป็นสิ่งที่ผู้หญิงทุกคนปรารถนา  จะทำให้คุณมีรูปร่างสวยงามมากยิ่งขึ้น การดูดไขมันบริเวณนี้ก็ทำให้ได้ผลลัพธ์เป็นที่น่าพึงพอใจสำหรับสาว ๆ อย่างแน่นอน

ใครที่เหมาะกับการดูดไขมัน 360 องศา

  1. ผู้ที่มีไขมันส่วนเกินในร่างกายมากจนเกินไป ไม่ว่าจะเป็นบริเวณหน้าท้อง แขน ขา หรือน่อง
  2. ผู้ที่ออกกำลังกายแล้วยังน้ำหนักไม่ลด โดยกำจัดได้ยากมาก เพราะเป็นไขมันที่สะสมมาเป็นเวลานาน
  3. ผู้ที่ออกกำลังกายแล้วยังลดไขมันส่วนเกินได้ไม่หมด ยังมีไขมันที่สะสมอยู่ในร่างกายอยู่
  4. ผู้ที่ต้องการแก้ไขผิวเปลือกส้มไม่สม่ำเสมอจากไขมันส่วนเกิน

ผลลัพธ์ที่ได้จากการดูดไขมัน 360 องศา

  1. เพื่อให้ได้รูปร่างที่สวยงามมากยิ่งขึ้น เพื่อจะกำจัดไขมันส่วนเกินในกรณีที่การควบคุมอาหารหรือออกกำลังกายไม่สามารถให้ผลที่พอใจได้ ซึ่งการจะได้รูปร่างที่สวยสมส่วนนั้น เพราะจะให้คำแนะนำเพื่อเลือกกระบวนการที่เหมาะสมและตอบคำถามในทุกความกังวลใจของทุกท่าน
  2. ผลการรักษาอยู่ได้นานและลดโอกาสการกลับมาอ้วนซ้ำ

การดูดไขมันให้ผลรวดเร็วทันใจ โดยการลดจำนวนเซลล์ไขมันรวมถึงขนาดของเซลล์ด้วย ดังนั้น ถึงแม้ต่อมาน้ำหนักจะขึ้น แต่บริเวณที่ได้รับการดูดไขมันไปแล้วจะพบการเปลี่ยนแปลงน้อยมาก

  1. การผ่าตัดปรับรูปร่างอย่างปลอดภัย

มีระบบห้องผ่าตัดสามชั้น เครื่องติดตามอาการที่ทันสมัย เครื่องช่วยชีวิตยามฉุกเฉิน เหล่านี้เพื่อให้คุณวางใจได้ว่าการผ่าตัดดูดไขมัน จะคำนึงถึงความปลอดภัยของคนไข้เป็นอันดับแรก

  1. ทีมผ่าตัดที่มากด้วยประสบการณ์และการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง

ให้การดูแลทุกการผ่าตัดด้วยทีมคุณภาพ ทั้งแพทย์ พยาบาลและเจ้าหน้าที่ที่มากด้วยประสบการณ์ และยังมีงานวิจัยพัฒนาเทคนิคการผ่าตัดอย่างต่อเนื่องอีกด้วย

  1. การดูแลหลังผ่าตัด

หลังการผ่าตัดเสร็จสิ้น จะมีทีมติดตามอาการเป็นระยะ และมีโปรแกรมให้การดูแลเพื่อให้แผลฟื้นตัวได้เร็วที่สุด