5 อันดับ คลินิกตัดกระเพาะ ที่คนเข้าใช้บริการมากที่สุด

คลินิกตัดกระเพาะ

ในยุคปัจจุบันที่การดูแลสุขภาพและรูปร่างกลายเป็นเรื่องสำคัญ การตัดกระเพาะเป็นหนึ่งในวิธีที่ได้รับความนิยมอย่างมากสำหรับผู้ที่ต้องการลดน้ำหนักอย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน การเลือกคลินิกที่มีความเชี่ยวชาญและได้รับความไว้วางใจจากผู้ใช้บริการจึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง 

เราจะพาคุณไปทำความรู้จักกับ 5 อันดับคลินิกตัดกระเพาะที่มีผู้เข้าใช้บริการมากที่สุดในประเทศไทย ซึ่งแต่ละแห่งมีความโดดเด่นทั้งในด้านการบริการ ความเชี่ยวชาญของทีมแพทย์ และผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจ เพื่อให้คุณสามารถตัดสินใจเลือกคลินิกที่เหมาะสมและมั่นใจได้ว่าจะได้รับการดูแลที่ดีที่สุดในการเดินทางสู่สุขภาพที่ดีและรูปร่างที่สมบูรณ์แบบ

ทำไมคนส่วนใหญ่เลือกตัดกระเพาะลดความอ้วน

คนส่วนใหญ่เลือกการผ่าตัดกระเพาะเพื่อลดความอ้วน เนื่องจากเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพสูงในการลดน้ำหนักและรักษาโรคอ้วนที่มักไม่สามารถควบคุมได้ด้วยวิธีอื่น เช่น การควบคุมอาหารและการออกกำลังกาย การผ่าตัดกระเพาะช่วยลดปริมาณอาหารที่รับประทานได้และลดการดูดซึมอาหาร ทำให้ผู้ป่วยรู้สึกอิ่มเร็วขึ้นและหิวน้อยลง นอกจากนี้ยังช่วยลดความเสี่ยงและความรุนแรงของโรคร่วมที่เกี่ยวข้องกับโรคอ้วน เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง และโรคหัวใจ

การผ่าตัดกระเพาะมีหลายวิธี เช่น การผ่าตัดแบบสลีฟ (Sleeve Gastrectomy) และการผ่าตัดแบบบายพาส (Roux-en-Y Gastric Bypass) ซึ่งทั้งสองวิธีนี้ได้รับการยอมรับว่ามีความปลอดภัยและมีประสิทธิภาพสูง ผู้ป่วยที่ผ่านการผ่าตัดมักจะเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนในระยะเวลาอันสั้นและมีโอกาสกลับมาอ้วนน้อยลงเมื่อเทียบกับวิธีการลดน้ำหนักอื่น ๆ

ผ่าตัดกระเพาะคืออะไร

ผลข้างเคียงของการผ่าตัดกระเพาะคืออะไร?

การผ่าตัดกระเพาะอาหารเพื่อลดน้ำหนักมีผลข้างเคียงและภาวะแทรกซ้อนหลายประการที่ผู้ป่วยควรทราบก่อนตัดสินใจทำการผ่าตัด

  1. การรั่วของกระเพาะที่เย็บ : มีโอกาสเกิดประมาณ 0.2% ซึ่งขึ้นอยู่กับการทานอาหารหลังการผ่าตัดและเทคนิคการเย็บกระเพาะ
  2. การตีบของแผลในกระเพาะ : มักเกิดจากการตัดกระเพาะเหลือน้อยเกินไป ซึ่งสามารถป้องกันได้ด้วยการตัดกระเพาะตามมาตรฐาน
  3. อาการกรดไหลย้อน : พบมากในผู้ที่ผ่าตัดแบบสลีฟมากกว่าบายพาส
  4. การขาดสารอาหาร : เช่น การขาดโปรตีน วิตามิน และแร่ธาตุต่าง ๆ ซึ่งอาจทำให้เกิดอาการผมร่วง โลหิตจาง และปัญหาสุขภาพอื่น ๆ
  5. Dumping Syndrome : อาการที่เกิดจากอาหารผ่านกระเพาะเข้าสู่ลำไส้เร็วเกินไป ทำให้เกิดอาการคลื่นไส้ อาเจียน ท้องเสีย และอาการน้ำตาลในเลือดต่ำ
  6. อาการคลื่นไส้หรืออาเจียน : เป็นอาการที่พบบ่อยในช่วงแรกหลังผ่าตัด
  7. อาการปวดเมื่อยตัวและอ่อนเพลีย : มักเกิดขึ้นในช่วงแรกหลังผ่าตัดและจะหายไปเมื่อร่างกายฟื้นตัว
  8. ภาวะโลหิตจางจากการขาดวิตามิน B12 : เนื่องจากส่วนของกระเพาะที่ช่วยในการดูดซึมวิตามินถูกตัดออกไป
  9. การเปลี่ยนแปลงทางผิวหนังและผมร่วง : เกิดจากการลดน้ำหนักอย่างรวดเร็วและการขาดสารอาหาร

แนะนำ 5 อันดับคลินิกตัดกระเพาะที่คนเข้าใช้บริการมากที่สุด

1.โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ (Bumrungrad International Hospital)

โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์เป็นหนึ่งในโรงพยาบาลเอกชนที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีชื่อเสียงระดับโลกในด้านการให้บริการทางการแพทย์ที่มีคุณภาพสูงและเทคโนโลยีที่ทันสมัย โรงพยาบาลนี้มีทีมศัลยแพทย์ที่เชี่ยวชาญในหลายสาขา รวมถึงการผ่าตัดกระเพาะเพื่อลดน้ำหนัก

  • การผ่าตัดกระเพาะแบบสลีฟ (Sleeve Gastrectomy) : เป็นการผ่าตัดที่ลดขนาดกระเพาะอาหารให้เล็กลง ทำให้ผู้ป่วยรู้สึกอิ่มเร็วขึ้นและลดปริมาณการบริโภคอาหาร
  • การผ่าตัดกระเพาะแบบบายพาส (Gastric Bypass):  เป็นการผ่าตัดที่เปลี่ยนเส้นทางการย่อยอาหาร ทำให้ร่างกายดูดซึมแคลอรีน้อยลง

นอกจากนี้ โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ยังมีบริการหลังการผ่าตัดที่ครอบคลุม เช่น การติดตามผล การให้คำปรึกษาด้านโภชนาการ และการฟื้นฟูสมรรถภาพ เพื่อให้ผู้ป่วยสามารถปรับตัวและมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น

2.โรงพยาบาลสมิติเวช สุขุมวิท (Samitivej Sukhumvit Hospital)

โรงพยาบาลสมิติเวช สุขุมวิทมีชื่อเสียงในด้านการให้บริการทางการแพทย์ที่ครอบคลุมและมีคุณภาพสูง โรงพยาบาลนี้มีทีมแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญในหลายสาขา รวมถึงการผ่าตัดกระเพาะเพื่อลดน้ำหนัก

  • การผ่าตัดกระเพาะเพื่อลดน้ำหนัก : โรงพยาบาลสมิติเวช สุขุมวิทมีการใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยในการผ่าตัดกระเพาะ เช่น การผ่าตัดกระเพาะแบบสลีฟและการผ่าตัดกระเพาะแบบบายพาส
  • การดูแลหลังการผ่าตัด : โรงพยาบาลมีบริการติดตามผลและให้คำปรึกษาด้านโภชนาการ เพื่อให้ผู้ป่วยสามารถปรับตัวและมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น

โรงพยาบาลสมิติเวช สุขุมวิทยังมีการให้บริการที่ครอบคลุมทั้งการตรวจสุขภาพ การรักษาโรคต่าง ๆ และการฟื้นฟูสมรรถภาพ ทำให้ผู้ป่วยได้รับการดูแลอย่างครบวงจร

3.โรงพยาบาลกรุงเทพ (Bangkok Hospital)

โรงพยาบาลกรุงเทพเป็นหนึ่งในโรงพยาบาลที่มีชื่อเสียงในด้านการให้บริการทางการแพทย์ที่ครอบคลุมและมีคุณภาพสูง โรงพยาบาลนี้มีคลินิกลดน้ำหนักและรักษาโรคอ้วนที่มุ่งเน้นการดูแลสุขภาพของผู้ป่วยให้รูปร่างอยู่ในสัดส่วนและน้ำหนักที่เหมาะสม

  • การผ่าตัดกระเพาะแบบสลีฟ (Sleeve Gastrectomy) : เป็นการผ่าตัดที่ลดขนาดกระเพาะอาหารให้เล็กลง ทำให้ผู้ป่วยรู้สึกอิ่มเร็วขึ้นและลดปริมาณการบริโภคอาหาร
  • การผ่าตัดกระเพาะแบบบายพาส (Gastric Bypass) : เป็นการผ่าตัดที่เปลี่ยนเส้นทางการย่อยอาหาร ทำให้ร่างกายดูดซึมแคลอรีน้อยลง

โรงพยาบาลกรุงเทพยังมีบริการหลังการผ่าตัดที่ครอบคลุม เช่น การติดตามผล การให้คำปรึกษาด้านโภชนาการ และการฟื้นฟูสมรรถภาพ เพื่อให้ผู้ป่วยสามารถปรับตัวและมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น

4.รัตตินันท์ เมดิคอล เซ็นเตอร์ (Rattinan Medical Center)

รัตตินันท์ เมดิคอล เซ็นเตอร์เปิดให้บริการมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2542 และมีประสบการณ์มากกว่า 24 ปี ตั้งอยู่ใจกลางกรุงเทพมหานคร มีทีมแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญและเทคโนโลยีที่ทันสมัย

  • การรับรองมาตรฐาน : รัตตินันท์ เมดิคอล เซ็นเตอร์ได้รับการรับรองมาตรฐานจากหลายองค์กร ทำให้ผู้ป่วยมั่นใจในคุณภาพการบริการ
  • การผ่าตัดกระเพาะเพื่อลดน้ำหนัก : ศูนย์นี้มีการใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยในการผ่าตัดกระเพาะ เช่น การผ่าตัดกระเพาะแบบสลีฟและการผ่าตัดกระเพาะแบบบายพาส

รัตตินันท์ เมดิคอล เซ็นเตอร์ยังมีบริการหลังการผ่าตัดที่ครอบคลุม เช่น การติดตามผล การให้คำปรึกษาด้านโภชนาการ และการฟื้นฟูสมรรถภาพ เพื่อให้ผู้ป่วยสามารถปรับตัวและมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น

5.โรงพยาบาลพญาไท 2 (Phyathai 2 International Hospital)

โรงพยาบาลพญาไท 2 เป็นหนึ่งในโรงพยาบาลที่ได้รับการยอมรับในด้านการผ่าตัดกระเพาะเพื่อลดน้ำหนัก มีทีมแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญและเทคโนโลยีที่ทันสมัย

  • การผ่าตัดกระเพาะเพื่อลดน้ำหนัก : โรงพยาบาลพญาไท 2 มีการใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยในการผ่าตัดกระเพาะ เช่น การผ่าตัดกระเพาะแบบสลีฟและการผ่าตัดกระเพาะแบบบายพาส
  • การดูแลหลังการผ่าตัด : โรงพยาบาลมีบริการติดตามผลและให้คำปรึกษาด้านโภชนาการ เพื่อให้ผู้ป่วยสามารถปรับตัวและมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น

โรงพยาบาลพญาไท 2 ยังมีการให้บริการที่ครอบคลุมทั้งการตรวจสุขภาพ การรักษาโรคต่างๆ และการฟื้นฟูสมรรถภาพ ทำให้ผู้ป่วยได้รับการดูแลอย่างครบวงจร

สิ่งที่ไม่ควรทำหลังผ่าตัดกระเพาะ

สิ่งที่ไม่ควรทำหลังผ่าตัดกระเพาะ

  1. ห้ามดื่มน้ำระหว่างมื้ออาหาร : การดื่มน้ำระหว่างมื้อหรือภายในครึ่งถึง 1 ชั่วโมงหลังรับประทานอาหารจะทำให้อาหารไหลผ่านกระเพาะอย่างรวดเร็ว ทำให้เกิดการดูดซึมที่ไม่ดีและอาจเกิดอาการคลื่นไส้หรืออาเจียน
  2. หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารเร็วเกินไป : การรับประทานอาหารเร็วและไม่เคี้ยวให้ละเอียดจะทำให้ปวดท้อง คลื่นไส้ อาเจียน และระคายเคืองกระเพาะ ควรเคี้ยวอาหารให้ละเอียดจนเหลวก่อนกลืน
  3. งดอาหารมันและของทอด : อาหารมันและของทอดเป็นอุปสรรคต่อการลดน้ำหนักและอาจทำให้เกิดนิ่วและปัสสาวะเป็นเลือดได้
  4. หลีกเลี่ยงการรับประทานน้ำตาลและแป้ง : การรับประทานน้ำตาลและแป้งมากเกินไปจะทำให้เกิดอาการวูบ หน้ามืดเป็นลม และอาจทำให้น้ำหนักไม่ลดลงตามที่คาดหวัง
  5. ไม่ควรรับประทานอาหารปริมาณมากเกินไป : การรับประทานอาหารมากเกินไปจะทำให้รู้สึกจุกแน่นและอาเจียน ซึ่งอาจทำให้กระเพาะที่ผ่าตัดไปรั่วได้

สรุป

การเลือกคลินิกตัดกระเพาะที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญ สำหรับผู้ที่ต้องการลดน้ำหนัก ซึ่งเราได้รวบรวม 5 อันดับคลินิกตัดกระเพาะที่ได้รับความนิยมมากที่สุดจากผู้ใช้บริการ โดยที่แต่ละคลินิกมีความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ที่น่าเชื่อถือ ทั้งในด้านการให้คำปรึกษา การผ่าตัด และการดูแลหลังการผ่าตัด คลินิกเหล่านี้ไม่เพียงแต่มีทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ แต่ยังมีเทคโนโลยีที่ทันสมัยและบริการที่เป็นมิตร ทำให้ผู้ป่วยรู้สึกมั่นใจและปลอดภัยในการรับบริการ การศึกษาข้อมูลและรีวิวจากผู้ใช้บริการจริงจึงเป็นสิ่งสำคัญในการตัดสินใจเลือกคลินิกที่ดีที่สุดสำหรับคุณ