เคล็ดลับการสลายไขมันหน้าท้อง

ไขมันหน้าท้อง เป็นอีกปัญหาที่สร้างความกังวลใจให้กับสาว ๆ เป็นอย่างมาก เนื่องจากมีปริมาณไขมันที่สะสมอยู่ในบริเวณดังกล่าวมากจนสร้างความไม่มั่นใจในตนเอง  การลดไขมันหน้าท้อง สลายไขมันหน้าท้อง อาจทำให้หลายคนรู้สึกท้อใจ เพราะกว่าจะลดได้นั้นไม่ใช่เรื่องง่าย ซึ่งไขมันตรงหน้าท้องนี้นับเป็นปัจจัยเสี่ยงหนึ่งที่ทำให้เกิดปัญหาสุขภาพต่าง ๆ ตามมามากมายได้ แถมยังทำให้รู้สึกตัวบวมและอึดอัดอีกต่างหาก

สลายไขมันหน้าท้อง

มารู้จักไขมันหน้าท้อง

หากใครที่มีรูปร่างอ้วนเหมือนลูกแอปเปิล คือป่องตรงส่วนท้องมากกว่าส่วนอื่น ๆ อาจเป็นไขมันที่สะสมมานาน และอยู่ในอวัยวะภายในมากกว่าที่จะเป็นไขมันนุ่ม ๆ สะสมอยู่ใต้ผิวหนัง ดังนั้นการจะลดไขมันที่อยู่ข้างในร่างกายได้ขนาดนี้ การออกกำลังกายอย่างเดียวไม่พอ ต้องควบคู่ไปกับการควบคุมอาหารด้วย

เคล็ดลับลดไขมันหน้าท้องง่าย ๆ

  1. เริ่มต้นวันด้วยกิจกรรมที่ทำให้ตื่นตัว เช่น วิ่ง แอโรบิกเบา ๆ วิ่งหรือเดินขึ้นบันไดระหว่างเดินทางไปทำงาน เป็นต้น เพื่อเพิ่มการตื่นตัวให้เราสดชื่น กระปรี้กระเปร่า และเผาผลาญพลังงานมากขึ้น
  2. มีกิจกรรมระหว่างวันทำอยู่ตลอดเวลา อาจจะใช้เวลาระหว่างการเดินไปห้องน้ำระหว่างทำงานหรือเรียนด้วยการเดินเร็ว เดินขึ้นบันไดแทนลิฟท์ อย่าลืมลุกขึ้นจากเก้าอี้ทุก ๆ 1-2 ชั่วโมงเป็นอย่างน้อย เพื่อป้องกันโรคอ้วน และออฟฟิศซินโดรมอื่น ๆ
  3. สามารถรับประทานอาหาร 3 มื้อได้ตามปกติ แต่เลือกอาหารที่รับประทานมากขึ้น หลีกเลี่ยงข้าวขาว กินข้าวกล้อง ข้าวแดงแทน เลือกโปรตีนไขมันต่ำ เช่น ไก่ ปลาลอกหนัง เพิ่มผักผลไม้ให้มากขึ้น และลดของหวานทั้งขนม และเครื่องดื่ม
  4. ออกกำลังกายวันละอย่างน้อย 30 นาที 5-7 วันต่อสัปดาห์ เน้นการออกกำลังกายทุกส่วน และหน้าท้อง ตามด้วยการออกกำลังที่ต้องต้านทานกับน้ำหนัก เช่น ซิทอัพ แพลงก์ ฯลฯ
  5. ไม่เข้านอนดึกเกินไป เพราะยิ่งนอนดึก ยิ่งเสี่ยงต่อการหักห้ามใจที่จะไม่กินจุบจิบตอนกลางคืนได้

แนะนำบทความยอดนิยม ปลูกผม fue จากเว็บไซต์ Rattinan.com

เคล็ดลับ สลายไขมันหน้าท้องให้ได้ผล

เรามีเคล็ดลับมาฝากกัน เพื่อช่วยให้หน้าท้องของคุณแบนราบ พร้อมมีหุ่นสวย ๆ ไว้อวดโฉม โดยทำตามวิธีง่าย ๆ ดังต่อไปนี้

  1. กินของว่างระหว่างมื้อ

หลายคนคงคิดว่าการกินของว่างระหว่างมื้อจะทำให้อ้วนและลงพุงได้ แต่ในความเป็นจริงแล้ว การกินของว่างระหว่างมื้ออาหารในช่วง 3-4 โมงเย็น อาจช่วยกระตุ้นกระบวนการเมตาบอลิซึม และอาจช่วยปรับระดับน้ำตาลในเลือดให้สมดุลกับระดับฮอร์โมนอินซูลิน ซึ่งจะช่วยให้ร่างกายเผาผลาญพลังงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่ไม่ควรกินอาหารที่มีน้ำตาลหรือแคลอรีสูง ให้เลือกกินอาหารโปรตีนสูงอย่างโปรตีนบาร์ ชีสไขมันต่ำ หรืออัลมอนด์แทนในปริมาณเล็กน้อย

  1. งดกินอาหารแปรรูป

แม้ว่าอาหารแปรรูปอย่างขนมปังขาว ขนมอบกรอบ มันฝรั่งทอด น้ำอัดลม และขนมหวานต่าง ๆ จะมีรสชาติที่ถูกปากและเป็นอาหารโปรดของใครหลายคน แต่อาหารเหล่านี้อาจเพิ่มการอักเสบในร่างกาย ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อความสามารถในการกำจัดไขมันที่สะสมบริเวณท้องได้ ดังนั้น ควรหลีกเลี่ยงการกินอาหารแปรรูป แล้วหันมาเลือกกินอาหารสดใหม่จากธรรมชาติอย่างผัก ผลไม้ และธัญพืชที่ไม่ขัดสี ซึ่งอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระและมีคุณสมบัติต้านการอักเสบด้วย

  1. ลดการกินแป้ง

การจำกัดปริมาณอาหารจำพวกแป้งให้น้อยลงนั้นส่งผลดีต่อสุขภาพมากมาย โดยเฉพาะในเรื่องของการลดน้ำหนัก และยังช่วยลดไขมันที่สะสมตามอวัยวะต่าง ๆ รวมถึงไขมันรอบเอวได้ด้วย นอกจากนี้ มีงานวิจัยที่ชี้ว่าการกินคาร์โบไฮเดรตหรือแป้งชนิดที่ไม่ผ่านกระบวนการแปรรูปแทนการกินแป้งขัดสี ช่วยส่งเสริมกระบวนการเผาผลาญให้ดีขึ้น ลดไขมันรอบเอว และลดไขมันสะสมบริเวณท้องด้วยเช่นกัน

  1. เพิ่มอาหารที่มีไฟเบอร์

ไฟเบอร์หรือเส้นใยอาหารที่มักพบในผักผลไม้ โดยเฉพาะไฟเบอร์ชนิดละลายน้ำ จะช่วยดูดซึมน้ำและชะลอการลำเลียงอาหารให้เคลื่อนไปยังทางเดินอาหารได้ช้าลง ซึ่งช่วยทำให้รู้สึกอิ่มเร็วขึ้น นอกจากนี้ การกินไฟเบอร์ชนิดละลายน้ำยังช่วยลดการสะสมไขมันตามอวัยวะต่าง ๆ ส่งผลให้ไขมันรอบเอวลดลง และเสี่ยงเกิดปัญหาสุขภาพน้อยลงด้วย โดยตัวอย่างแหล่งอาหารของไฟเบอร์ชนิดละลายน้ำ คือ ข้าวโอ๊ต เมล็ดแฟลกซ์ อะโวคาโด ถั่วเมล็ดแห้ง และแบล็คเบอร์รี่

บทความแนะนำ การฉีดฟิลเลอร์ จาก Rattinan.com

  1. ออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอ

การออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอหรือแอโรบิก อย่างเดินเร็ว วิ่ง และปั่นจักรยาน เป็นทางเลือกที่ดีในการสลายไขมันและช่วยให้มีสุขภาพดี จากงานค้นคว้าหลายชิ้นพบว่า การออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอช่วยเพิ่มความแข็งแรงบริเวณลำตัว อีกทั้งยังช่วยลดไขมันส่วนเกินหรือห่วงยางไขมันที่อยู่รอบเอวด้วย โดยควรทำอย่างต่อเนื่องที่ระดับความเข้มข้นปานกลางไปถึงสูง ทำอย่างน้อยวันละ 20-40 นาที หรือประมาณ 150-300 นาทีต่อสัปดาห์ เพียงเท่านี้ไขมันหน้าท้องก็จะหมดไปและเหลือไว้แต่พุงที่แบนราบ

  1. ยกเวท

การฝึกกล้ามเนื้อให้แข็งแรงขึ้นด้วยการยกเวทจะช่วยสร้างมวลกล้ามเนื้อ ซึ่งทำให้ร่างกายสามารถเผาผลาญแคลอรีในแต่ละวันได้มากขึ้น นอกจากนี้ การยกเวทยังช่วยให้กล้ามเนื้อลำตัวกระชับและช่วยลดขนาดรอบเอวได้อีกด้วย เพื่อผลลัพธ์ที่ดีในการลดไขมันหน้าท้อง ควรยกเวทควบคู่ไปกับการออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอด้วย

  1. พักผ่อนให้เพียงพอ

ปัจจัยสำคัญอย่างหนึ่งของการลดน้ำหนักคงหนีไม่พ้นการนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ โดยมีงานวิจัยที่ชี้ว่าการนอนน้อยกว่า 5 ชั่วโมงต่อวันนั้นสัมพันธ์กับน้ำหนักตัวที่เพิ่มมากขึ้น นอกจากนี้ ผู้ที่นอนน้อยยังมีโอกาสเสี่ยงเป็นโรคอ้วนเพิ่มขึ้นถึง 55 เปอร์เซ็นต์ด้วย ดังนั้น ถ้าไม่อยากพุงยื่นหรือมีห่วงยางรอบเอว ควรให้ร่างกายพักผ่อนอย่างเพียงพอเสมอ