การดูดไขมันปัจจุบันนี้ได้มีการพัฒนาเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับทั้งแพทย์ และคนไข้ และเพื่อให้ผลลัพธ์ที่ออกมาเป็นที่น่าพึงพอใจ มีอาการบวมช้ำน้อยลง และพักฟื้นไวขึ้น เมื่อเทียบกับสมัยก่อน ซึ่งในบางคนจะมีความกังวลว่า หลังดูดไขมันบวมกี่วัน ดูดไขมันแล้วจะต้องพักฟื้นกี่วัน และเมื่อดูดไขมันแล้วกี่เดือนถึงจะเห็นผล และหากมีอาการบวมหลังจากการดูดไขมันเราจะมีวิธีในการลดบวมดูดไขมันกันอย่างไร
หลังจากการดูดไขมันนั้น ผู้รับการดูดไขมันจะมีอาการบวมช้ำมาก ซึ่งในบทความนี้จะมาให้ข้อมูลว่าหลังจากที่ท่านทำการดูดไขมันแล้วจะมีอาการอะไรบ้าง ต้องใช้ระยะเวลานานแค่ไหนอาการบวมถึงหายไป สัดส่วนจะเข้าที่ และมีวิธีในการลดบวม ลดเขียวยังไงบ้าง มาดูกันค่ะ
บทความแนะนำ ผ่าตัด ไขมัน หน้า ท้อง จากเว็บไซต์ Rattinan.com
ระยะเวลาหลังดูดไขมัน
- หลังดูดไขมัน 1 – 3 วันแรก
สำหรับเครื่องดูดไขมันพลังน้ำจะมีอาการบวมมากกว่าพลังความร้อน เพราะมีการใส่น้ำเข้าไปจำนวนมาก เพื่อพ่นสลายไขมันให้สลายออกจากกัน และมีการใส่ Tumescent (ยาชา, น้ำเกลือ และตัวยาอื่น ๆ ขึ้นอยู่กับแต่ละคลินิก) ด้วย จึงทำให้หลังดูดไขมันพลังน้ำใน 3 วันแรก จะมีอาการบวมมาก
สำหรับเครื่องดูดไขมันพลังความร้อน จะเห็นความเปลี่ยนแปลงของสัดส่วนได้ทันทีหลังทำ เพราะมีน้ำค้างอยู่น้อยมาก จึงมีอาการบวมน้อยกว่ากลุ่มพลังน้ำ - หลังดูดไขมัน 3 – 7 วัน
ในกรณีของการใช้เครื่องดูดไขมันพลังน้ำน้ำจะทยอยซึมออกจนหมด และจะเกิดการอักเสบขึ้นในช่วงนี้ ทำให้มีอาการบวมขึ้นมา
ในกรณีของการใช้เครื่องดูดไขมันพลังความร้อน ช่วง 3 – 7 วันนี้ จะมีอาการอักเสบมาก ถ้าเป็นคนที่ช้ำง่าย บริเวณที่ดูดไขมันจะมีรอยช้ำ ลักษณะเป็นปื้น ๆ สีแดงม่วง เพราะมีเม็ดเลือดไปกองอยู่ในบริเวณนี้มาก - หลังดูดไขมันสองสัปดาห์
บริเวณที่ดูดไขมัน จากเดิมเป็นรอยช้ำสีม่วงแดง จะค่อย ๆ กลายเป็นสีเขียว ปนเหลืองจาง ๆ - สัปดาห์ที่ 3 – 4 หลังดูดไขมัน
ช่วงนี้ อาการบวมจะค่อย ๆ น้อยลง และสัดส่วนเริ่มเข้าที่มากขึ้น แต่ผิวหนังกับกล้ามเนื้อยังไม่แนบชิดติดกัน สัดส่วนจึงยังไม่เฟิร์มกระชับ - สัปดาห์ที่ 4 – 8 หลังดูดไขมัน
สัดส่วนจะเริ่มเข้ารูปเข้าร่าง ในกรณีที่คนไข้ดูดไขมันหน้าท้อง – เอวเอส บริเวณหน้าท้องก็จะแบนเรียบ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาพผิวเดิมของคนไข้ และไซส์เดิมของคนไข้ก่อนดูดไขมันด้วย
วิธีลดบวมดูดไขมัน
อาการบวมนั้น จะขึ้นอยู่กับคนไข้แต่ละคนด้วย ถ้าคนไข้เป็นคนที่เจ็บง่าย แพทย์ก็ต้องใส่ยาชาเยอะ ทำให้มีโอกาสที่จะบวมมากขึ้นไปอีก ดังนั้น เรามาดูกันเลยดีกว่า ว่าจะมีวิธีอะไรบ้าง ที่สามารถช่วยลดอาการบวมได้
- ลดอาหารเค็ม หลีกเลี่ยงอาหารที่มีโซเดียม
โซเดียม จะทำหน้าที่ควบคุมความสมดุลของเหลวภายในร่างกาย เมื่อรับประทานอาหารเค็ม หรืออาหารที่มีโซเดียมสูง จะทำให้ระดับของโซเดียมเกินความจำเป็นของร่างกาย และร่างกายก็จะกักเก็บน้ำไว้ที่ชั้นผิวโดยอัตโนมัติ เพื่อรอขับโซเดียมส่วนเกินนี้ออกทางไต ในระหว่างนี้เองที่ทำให้ตัวเราบวมขึ้น - การกินยาลดบวม
ในกรณีที่ผู้เข้ารับการดูดไขมันมีอาการบวมช้ำง่าย แพทย์จะให้ยาไปกินก่อนดูดไขมัน 2 – 3 วัน โดยตัวยาจะทำมาจากสมุนไพร สารสกัดจากธรรมชาติ มีฤทธิ์ขับปัสสาวะ ทำให้ลดบวมเร็วขึ้น และเมื่อทำการดูดไขมันเสร็จแพทย์จะให้ยาลดบวมไปกินต่อที่บ้านและรับประทานทุกครั้งที่มีอาการบวม - ไม่หักโหม หรือทำอะไรหนัก ๆ
ใน 2 สัปดาห์แรก ควรงดทำกิจกรรมที่ต้องขยับเขยื้อนร่างกาย หรือยกของหนัก เพราะจะทำให้บวมมากกว่าเดิม หรือสัดส่วนเข้าที่ช้า เนื่องจากหลังดูดไขมัน จะมีช่องว่างภายใต้ผิว ระหว่างผิวหนังและกล้ามเนื้อ การขยับเขยื้อนร่างกาย จะทำให้ผิวหนังและกล้ามเนื้อขยับ ทำให้การแนบสนิทของพื้นที่ดังกล่าวช้าลง - การรีดน้ำออกจากร่างกาย
น้ำที่รีดออกไปคือยาชา น้ำเกลือ และเลือดนั่นเอง ดังนั้น หลังดูดไขมันทางสถานพยาบาลจะทำการรีดด้วยการบีบนวดตัวเพื่อเป็นการรีดน้ำออกจากร่างกาย
บทสรุป
ลดบวมดูดไขมัน เป็นอาการที่ทุกคนที่ทำการดูดไขมันจะต้องเจอ ดังนั้นเมื่อท่านทำการดูดไขมันกับสถานพยาบาลที่ได้มาตรฐานท่านจะไม่เกิดอาการเหล่านี้ หรือหากเกิดก็จะเกิดน้อยลง จึงต้องเลือกสถานพยาบาลให้ดีเพื่อให้เราได้รูปร่างที่สัดส่วนเข้าที่เร็วและไม่เสียเงินไปแบบไม่ได้อะไรเลย