ดูดไขมันที่ไหนดี?

หากท่านไหนที่ต้องการดูดไขมัน สิ่งแรกที่ต้องการค้นหานั่นก็คือ การดูดไขมันที่ไหนดี เพราะเป็นการเริ่มต้นของการหาข้อมูลหลาย ๆ ของการดูดไขมันเมื่อต้องการดูดไขมัน เชื่อว่าหลายท่านที่ไม่เคยดูดไขมัน คงเริ่มต้นไม่ถูกว่าการดูดไขมันจะต้องเช็คอะไรบ้าง จะเลือกเพราะทุกวันนี้หลายแห่งก็มีการโฆษณาแจ้งบริการดูดไขมันเยอะแยะมากมาย และหลายคนอาจจะไม่รู้จะหาข้อมูลยังไง ไปไม่เป็น หลายคนที่ยังไม่เคยดูดไขมันมาก่อนเลย คงจะยังตั้งหลักไม่ถูกกันแน่ 

ดังนั้นเราจึงมีข้อมูลเบื้องต้นมาฝากกันค่ะ 

1. ใช้วิธีดูดไขมันแบบไหน

ส่วนใหญ่จะเป็น Bodytite หรือ Vaser ซึ่งมีข้อดีต่างกัน แต่ละวิธีจะแตกต่างกัน ดูความแตกต่างของแต่ละวิธี

วิธีการดูดไขมันแบบ VASER

เป็นการใช้อุปกรณ์ที่ใช้คลื่นอัลตราซาวด์ สำหรับในการเผาผลาญไขมัน เป็นเครื่องรุ่นแรกที่ปรับปรุงมาก่อนการดูดไขมันแบบอื่น ๆ โดยที่แพทย์จะทำการฉีดน้ำเกลือที่มีส่วนผสมของยาชาไปยังตำแหน่งที่ต้องการจะดูดไขมันส่วนเกินออกแล้วหลังจากนั้นกรีดผิวหนังแล้วก็ใส่อุปกรณ์เครื่องมือเล็ก ๆ โดยจะใส่เข้าไปใต้ผิวอุปกรณ์จะปลดปล่อยคลื่นอัลตราซาวด์จากระบบหัวฉีด Vaser ที่มีหัวฉีดขนาดเล็กมาก ประมาณ 3มิลลิเมตรเท่านั้น คลื่นนี้จะช่วยสำหรับในการย่อยไขมันให้อ่อนนิ่มและก็เหลวมากเพิ่มขึ้น จนถึงละลายออกมาปนอยู่ในน้ำเกลือที่หมอฉีดเข้าไปก่อนหน้านั้นเหมาะสมกับผู้ที่มีไขมันส่วนเกินที่กำจัดยากมาก โดยยิ่งไปกว่านั้นส่วนหน้าท้อง บั้นท้าย ต้นขา

วิธีการดูดไขมันแบบ BodyTite

การดูดไขมันแบบนี้จะใช้เทคโนโลยีปลดปล่อยคลื่นความถี่วิทยุ (Radio frequency) ออกมา เพื่อช่วยเผาผลาญไขมันให้มีโมเลกุลที่เล็กลง ดูดออกมาได้ง่ายดายมากยิ่งขึ้นไขมันที่ถูกดูดออกมามีเลือดปนน้อยมากเมื่อเทียบกับวิธีอื่น ๆ ก่อให้เกิดแผลเพียงแค่เล็ก ๆ น้อย ๆ พร้อมช่วยกระชับผิวได้ในตัวจุดเด่นของการใช้คลื่น RF กำจัดไขมัน คือ ไม่ทำให้ผิวเป็นคลื่นหลังดูดไขมัน ผิวจะยังคงเรียบเนียนช่วยลดการเกิดรอยช้ำได้อย่างดี แผลหายเร็ว ควบคุมพลังงานแล้วก็กระจายความร้อนได้ดีให้พลังงานที่กระจายสม่ำเสมอ

2. ประวัติแพทย์ที่ดำเนินการดูดไขมัน

เพราะฝีมือแพทย์สำคัญมาก เช็คประวัติให้ชัวร์ว่าไม่ใช่หมอมือใหม่ เคยมีประสบการณ์ศัลยกรรม ดูดไขมัน มามากน้อยแค่ไหน ต้องเป็นแพทย์ผู้ที่มีความเชี่ยวชาญและมีประสบการณ์เท่านั้น

3. ใช้ยาชา หรือยานอนหลับ

ตรวจสอบถามขั้นตอนการรักษาจากแพทย์ที่เราเข้าไปขอข้อมูลวิธีการรักษา ว่าการใช้ยาชาหรือยาสลบในการรักษา การใช้ยาชาจะเหมาะกับการดูดไขมันในคราวเดียวไม่หลายตำแหน่ง เพียงยาชาก็เอาอยู่ แต่หากว่ามีการดูดไขมันหลายตำแหน่งเสี่ยงที่ยาชาจะระงับความเจ็บปวดได้ไม่พอจะแนะนำเป็นยานอนหลับ ซึ่งส่วนใหญ่จะใช้ในระดับโรงบาลเสริมความงาม

4. สถานที่ดูดไขมันสะอาด

ดูว่าคลินิกได้มาตรฐานหรือไม่ จดทะเบียนถูกต้องขององค์การอาหารและยา สถานที่ดูดไขมันสะอาด และปลอดภัยหรือไม่ ตั้งอยู่ในย่านการค้า ที่มีความเจริญและทันสมัย 

5. เครื่องมือ สิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ  

มีเครื่องมือที่ทันสมัย เครื่องมือได้รับการรับรองจากการนำเข้าเครื่องมือแพทย์ของบริษัทนำเข้ามีใบรับรองอย่างชัดเจน และมี เครื่องมือ สิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ  ทีมแพทย์ พยาบาล ที่คอยดูแลกรณีเกิดเหตุฉุกเฉิน

6. ขั้นตอนการทำแผล

การทำแผลหลังดูดไขมัน การใช้ผ้าสำหรับทำแผลโดยเฉพาะ หรือ Absorb Pad ที่เพื่อซึมซับโดยเฉพาะที่ใช้ในทางการแพทย์ซึมซับได้ปริมาณมาก ไม่ต้องคอยเปลี่ยน 

7. บริการดูแลหลังดูดไขมัน

และให้คำแนะนำ การดูแลหลังดูดไขมันโดยคลินิกที่ทำ ข้อนี้แต่ละแห่งจะมีให้ไม่เหมือนกัน เช็คให้ดี เช่น มีการทำแผล ล้างแผล ให้กี่ครั้ง หรือมีอย่างอื่นเสริมให้ด้วยหรือไม่

8. ราคา ต้องชัดเจน

แต่ละแห่งจะแจ้งราคาไม่เหมือนกัน ตัดราคาถูกมากๆ แต่มีจ่ายเพิ่มภายหลัง ก่อนตัดสินใจเลือกดูดไขมัน เช็คเรื่องราคากันให้ดี หลายแห่งมักจะเอาราคาเริ่มต้นมาแจ้งมากกว่าราคาสรุป ซึ่งอาจไม่ถูกเหมือนราคาโฆษณา

การดูดไขมัน ไม่ได้อันตรายอย่างที่คิด

เพราะหากคุณเลือกสถานที่บริการได้แล้ว ก็สามารถเข้าไปสอบถามพบแพทย์ได้เลย ทางแพทย์จะทำการซักประวัติ ตรวจร่างกาย และประเมินบริเวณที่ต้องการทำการดูดไขมัน โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อวางแผนการรักษา รวมถึงการประเมินว่าบริเวณที่ต้องการรับการดูดไขมันนั้นเหมาะสมต่อการรักษาด้วยวิธีการดูดไขมันหรือไม่ผู้เข้ารับการดูดไขมันจะต้องทำความเข้าใจ และเตรียมความพร้อมสำหรับการผ่าตัด เช่นการตรวจเลือด การหยุดยาบางชนิด เช่นยาแอสไพริน อาหารเสริม และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และในวันที่จะเข้ารับการดูดไขมัน แพทย์จะทำการตรวจประเมินร่างกายอีกครั้งว่ามีความพร้อมหรือไม่ จากนั้นเมื่อเตรียมร่างกายให้พร้อมแล้ว แพทย์จะทำการนัดเพื่อเข้ารับการดูดไขมัน บางคลินิกมีผู้มาใช้บริการเป็นจำนวนมากต้องจองคิวไว้ล่วงหน้า อาจจะนานหน่อย แต่เมื่อถึงวันจริงคุณหมอก็จะทำการตรวจร่างกายอีกครั้ง ในการดูดไขมัน ทางแพทย์จะใช้การระงับความเจ็บปวด แพทย์จะใช้วิธีการฉีดยาชาเฉพาะที่ หรือ local anesthesia แต่ในกรณีที่ผู้เข้ารับการดูดไขมันมีความกลัวมากกว่าปกติ แพทย์จะใช้วิธีดมยาสลบ หรือ General anesthesia ซึ่งควรจะทำในสถานพยาบาลเท่านั้น เนื่องจากมีความเสี่ยง